ขอความเห็นกรอบการเจรจาการเปิดเสรีการทำเกษตร
ด้านปศุสัตว์ และการประมง สำหรับการเจรจาเขตการค้าเสรี ไทย – สหภาพยุโรป
ถึง ผู้เกี่ยวข้องในกลุ่มปศุสัตว์ และการประมง
เนื่องจากข้อตกลงการเจรจาการค้าระหว่างไทยและสหภาพยุโรป ซึ่งผ่านมติการเห็นชอบของรัฐสภาตามบัญญัติของกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ไปแล้วและอยู่ระหว่างการเจรจาตกลงกลุ่มสินค้าและบริการต่างๆ โดยมีข่าวแพร่หลายออกมาทางสื่อหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 23 ตุลาคม 2556 ในประเด็นที่เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานราชการของไทยได้ทำหนังสือยื่นข้อเรียกร้องให้สหภาพยุโรป 28 ประเทศเปิดเสรีการทำเกษตร ด้านปศุสัตว์ ด้านการประมง โดยทางสหภาพยุโรปไม่ได้ร้องขอมาแต่ประการใด โดยเมื่อมีการขอให้สหภาพยุโรปเปิดเสรีการลงทุนกับประเทศไทย ประเทศไทยก็จะต้องเปิดให้สหภาพยุโรปเข้ามาทำเกษตรในประเทศไทยอย่างเสรีเช่นกัน ซึ่งการเจรจาของตัวแทนการค้าไทย – สหภาพยุโรป ครั้งที่ 3 จะมีขึ้นในช่วง 9-13 ธันวาคมนี้ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม
กรณีข้อเรียกร้องให้เปิดเสรีมากที่สุดตามนโยบายของข้อตกลงเขตการค้าเสรีนั้น จะไม่เป็นผลดีกับกลุ่มอุตสาหกรรมที่คู่สัญญาไม่มีความสามารถในการแข่งขันเทียบเท่ากันโดยเฉพาะด้านเงินทุนของเอกชนระหว่างสองประเทศ ซึ่งศักยภาพด้านเงินทุนของเอกชนจากสหภาพยุโรปด้านปศุสัตว์ และประมง จะมีสูงกว่าเอกชนของไทยมาก ซึ่งน่าจะเกิดผลเสียอย่างรุนแรง กับการขอเพิ่มการเปิดเสรีในด้านนี้เพิ่ม
การปศุสัตว์ของไทยโดยเฉพาะอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรจะได้รับผลกระทบมากที่สุด จากการพึ่งพาตลาดในประเทศเป็นหลักเนื่องจากข้อจำกัดการกีดกันเรื่องโรคปากและเท้าเปื่อย ตลอดเวลาภาคเอกชนและกรมปศุสัตว์ของไทยได้ทำงานอย่างหนักเพื่อให้ผลิตภัณฑ์สุกรของไทยปลอดจากข้อจำกัดข้อกีดกันของตลาดต่างประเทศในข้อจำกัดนี้ ที่มีมากว่าครึ่งศตวรรษ คือ โรคปากและเท้าเปื่อยซึ่งมีการยื่นขอการรับรองจากองค์การโรคระบาดระหว่างประเทศและมีการเข้ามาตรวจสอบในพื้นที่แล้วในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ โดยมีแนวโน้มที่จะได้รับการรับรองการเป็นเขตปลอดโรคปากเท้าเปื่อยเพื่อการส่งออกในเขตภาคตะวันออกในเร็วๆ นี้ จึงไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มการเปิดเสรีการทำเกษตร ด้านปศุสัตว์ ด้านการประมงในการเจรจาข้อตกลงการค้าระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป ซึ่งคาดว่าสมาคมกลุ่มปศุสัตว์ต่างๆ จะได้รับผลกระทบในลักษณะทุนที่ใหญ่กว่าเช่นกัน
จึงเรียนมาเพื่อขอความเห็นจากกลุ่มปศุสัตว์และประมง พิจารณาผลกระทบที่จะเกิดกับอุตสาหกรรมของท่าน เพื่อที่จะได้เดินหน้าร่วมยื่นคัดค้านโดยด่วน ซึ่งจะมีการประสานกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อขอทราบข้อมูลนี้เป็นลำดับถัดไป
คลิ๊กเข้าร่วมกลุ่มfacebookกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรแห่งประเทศไทย
เนื่องจากข้อตกลงการเจรจาการค้าระหว่างไทยและสหภาพยุโรป ซึ่งผ่านมติการเห็นชอบของรัฐสภาตามบัญญัติของกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ไปแล้วและอยู่ระหว่างการเจรจาตกลงกลุ่มสินค้าและบริการต่างๆ โดยมีข่าวแพร่หลายออกมาทางสื่อหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 23 ตุลาคม 2556 ในประเด็นที่เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานราชการของไทยได้ทำหนังสือยื่นข้อเรียกร้องให้สหภาพยุโรป 28 ประเทศเปิดเสรีการทำเกษตร ด้านปศุสัตว์ ด้านการประมง โดยทางสหภาพยุโรปไม่ได้ร้องขอมาแต่ประการใด โดยเมื่อมีการขอให้สหภาพยุโรปเปิดเสรีการลงทุนกับประเทศไทย ประเทศไทยก็จะต้องเปิดให้สหภาพยุโรปเข้ามาทำเกษตรในประเทศไทยอย่างเสรีเช่นกัน ซึ่งการเจรจาของตัวแทนการค้าไทย – สหภาพยุโรป ครั้งที่ 3 จะมีขึ้นในช่วง 9-13 ธันวาคมนี้ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม
กรณีข้อเรียกร้องให้เปิดเสรีมากที่สุดตามนโยบายของข้อตกลงเขตการค้าเสรีนั้น จะไม่เป็นผลดีกับกลุ่มอุตสาหกรรมที่คู่สัญญาไม่มีความสามารถในการแข่งขันเทียบเท่ากันโดยเฉพาะด้านเงินทุนของเอกชนระหว่างสองประเทศ ซึ่งศักยภาพด้านเงินทุนของเอกชนจากสหภาพยุโรปด้านปศุสัตว์ และประมง จะมีสูงกว่าเอกชนของไทยมาก ซึ่งน่าจะเกิดผลเสียอย่างรุนแรง กับการขอเพิ่มการเปิดเสรีในด้านนี้เพิ่ม
การปศุสัตว์ของไทยโดยเฉพาะอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรจะได้รับผลกระทบมากที่สุด จากการพึ่งพาตลาดในประเทศเป็นหลักเนื่องจากข้อจำกัดการกีดกันเรื่องโรคปากและเท้าเปื่อย ตลอดเวลาภาคเอกชนและกรมปศุสัตว์ของไทยได้ทำงานอย่างหนักเพื่อให้ผลิตภัณฑ์สุกรของไทยปลอดจากข้อจำกัดข้อกีดกันของตลาดต่างประเทศในข้อจำกัดนี้ ที่มีมากว่าครึ่งศตวรรษ คือ โรคปากและเท้าเปื่อยซึ่งมีการยื่นขอการรับรองจากองค์การโรคระบาดระหว่างประเทศและมีการเข้ามาตรวจสอบในพื้นที่แล้วในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ โดยมีแนวโน้มที่จะได้รับการรับรองการเป็นเขตปลอดโรคปากเท้าเปื่อยเพื่อการส่งออกในเขตภาคตะวันออกในเร็วๆ นี้ จึงไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มการเปิดเสรีการทำเกษตร ด้านปศุสัตว์ ด้านการประมงในการเจรจาข้อตกลงการค้าระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป ซึ่งคาดว่าสมาคมกลุ่มปศุสัตว์ต่างๆ จะได้รับผลกระทบในลักษณะทุนที่ใหญ่กว่าเช่นกัน
จึงเรียนมาเพื่อขอความเห็นจากกลุ่มปศุสัตว์และประมง พิจารณาผลกระทบที่จะเกิดกับอุตสาหกรรมของท่าน เพื่อที่จะได้เดินหน้าร่วมยื่นคัดค้านโดยด่วน ซึ่งจะมีการประสานกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อขอทราบข้อมูลนี้เป็นลำดับถัดไป
|
|
About น้ำเชื้อสุกร
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น