.

ราคาหมูหน้าฟาร์มวันนี้

สถานการณ์ PRRS ที่กำลังระบาดอยู่ในปัจจุบัน ผู้เลี้ยงสุกรโปรดต้องระวังอย่างยิ่ง

ถ้าถามว่า PRRS คืออะไร ต้องย้อนยาวกลับไปจริงๆ ครับ ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าตัวเชื้อหรือที่เราเรียกว่าเชื้อโรคนั้นมีหลายเชื้อครับ มีกันหลายกลุ่มหลายประเภท ลองยกตัวอย่างง่ายๆ เช่นเชื้อโปรโตซัวเช่นโรคบิด เชื้อแบคทีเรียเช่นเสตรปโตคอกคัส อีโคไลน์ หรือแม้กระทั่งเชื้อไวรัสเช่นพาร์โวไวรัส(ไม่ใช่ "กาโว" นะครับ) ปากเท้าเปื่อย เซอโค พิษสุนัขบ้าเทียม อหิวาต์ เป็นต้น
ดังนั้นถึงเรียกว่าเชื้อโรคเหมือนกัน แต่วิธีการรักษากลับต่างกัน เอาแบบสั้นๆ และแบบง่ายๆ สรุปว่าพวกโปรโตซัวกับแบคทีเรียนั้นยังพบว่ามีความไวต่อยาปฏิชีวนะครับ พูดง่ายๆ ว่า "ยายังเอาอยู่" แล้วการรักษาไวรัสล่ะ ? คำตอบคือการักษาให้หายขาดโดยใช้ยานั้นยังไม่ค้นพบ (บางคนกล่าวว่าค้นพบยาต้านไวรัส แต่ก็ยังไม่มีการขยายผลและการรับรองที่ชัดเจน มีบางที่ที่เริ่มมีการแสดงผลการวิจัยแล้วในคน แต่ยังเปิดตัวไม่ชัดเจนในสัตว์ ในเมืองไทยเริ่มมีการนำมาทดลองใช้แล้วได้ผลดี) การรักษาไวรัสนั้นต้องให้สัตว์ปรับสภาพร่างกายให้เข้ากับไวรัสได้ และคอยป้องกันไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อนเนื่องจากสภาพร่างกายที่อ่อนแอ อีกวีธีหนึ่งที่มักทำกันคือการใช้วัคซีน
วัคซีนคืออะไร วัคซีนก็คือเชื้อโรคนี่แหละครับ แต่เป็นเชื้อโรคที่ถูกทำให้อ่อนแอลงมากๆ แล้ว เราฉีดวัคซีนเข้าไปในร่างกายก่อน เมื่อร่างกายรู้จักกับวัคซีนแล้วระบบก็จะเรียนรู้ที่จะจัดการกับวัคซีนอย่างช้าๆ ถามว่าแล้วทำไมจึงไม่ติดโรค คำตอบคือติดสิครับทำไมจะไม่ติด !! ก็แหมเล่นเอาเชื้อโรคไปฉีดใส่หมูขนาดนั้น แต่เชื้อที่ติดเป็นเชื้อที่อ่อนแอแล้ว ก็จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายมากกับหมู เอาล่ะครับเรามาถึงจุดที่สำคัญแล้วนั่นคือ PRRS ที่เรากำลังจะกล่าวถึงกันนั้นเป็นเชื้อไวรัสครับ
PRRS ย่อมาจาก Porcine Reproductive and Respiratory Syndrome (แน่ะแอบมีความรู้นิดนึง) แปลตรงตัวก็น่าจะหมายความว่าโรคที่เกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์และระบบทางเดินหายใจ Reproductive=การสืบพันธุ์,Respiratory=การหายใจ,Syndrome=โรค ครับ ผมแปลมั่วๆ จากคำศัพท์ ครับ แปลว่าคนตั้งก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นอะไรแน่ชัด ระยะแรกที่ค้นพบโรคนี้ใหม่ๆ มีการเรียกโรคนี้ว่า Mystery Swine Disease ด้วยซ้ำไป แปลว่ามันต้องเป็นอะไรที่น่าพิศวงมากๆ แต่ที่แน่ๆ มันต้องทำให้ระบบสืบพันธุ์แย่ ระบบการหายใจแย่ แค่นั้นก็จบแล้วครับ สืบพันธุ์ไม่ได้ หายใจไม่ได้=ตาย นั่นเอง
ดังนั้นการรักษาอาการของหมูที่ติดโรค PRRS จึงไม่แจ่มชัด ลักษณะของมันคือจะไปทำให้ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ถ้าเทียบกับในคนก็คือเอดส์ครับ เมื่อภูมิคุ้มกันบกพร่องเชื้อโรคอื่นๆ ก็เข้าสู่ร่างกายได้ง่าย สมมุติหมูติดเชื้อไวรัส PRRS แล้วภูมิคุ้มกันไม่มี ต่อมาเชื้อเสตรปเข้าแทรกอีก ก็ตายด้วยเสตรป นั่นคือการที่ติด PRRS เป็นประตูสู่ความตายที่เปิดให้เสตรปแทรกเข้ามาเท่านั้น หมูไม่ได้ตายด้วยเชื้อ PRRS โดยตรง เป็นประเด็นแรกที่ยังมีผู้ไม่เข้าใจอีกมาก จึงต้องเกริ่นเพื่ออธิบายที่มาที่ไปพอสมควร
ปัจจุบัน (เท่าที่เปิดตัวกันโดยอล่างฉ่าง) ยังไม่พบว่ามียาที่สามารถรักษา PRRS ได้ครับ แม้ว่าจะมีวัคซีนออกมามากมายหลายยี่ห้อ ก็ยังระบาดกันทุกปี ถามว่าทำไมเป็นเช่นนั้น คำตอบคือวัคซีนทำให้มีภูมิคุ้มกันในระดับหนึ่ง แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่หมูภูมิคุ้มกันตกด้วยสาเหตุอื่นๆ ที่ไม่ใช่ PRRS เช่นอาการเปลี่ยน เครียดจัด ไม่สบายหนักๆ ภูมิคุ้มกันจะตกและ PRRS แสดงอาการออกมา ทำให้โรคอื่นๆ แทรกได้ง่าย เรื่องนี้ทำความเข้าใจได้จากการเป็นหวัดในคน หวัดก็เป็นเชื้อไวรัสเช่นกัน แม้ร่างกายจะมีภูมิคุ้มกันต่อหวัดแล้วแต่ถ้าหากร่างกายคนอ่อนแอ พักผ่อนน้อย เครียดจัด ก็จะทำให้ไวรัสออกอาการมาได้ครับ การฉีดวัคซีนอย่างน้อยก็เป็นหลักประกันได้ว่าหมูจะมีภูมิในระดับที่ใกล้เคียงกัน ไม่ใช่อีกตัวเป็นมาก อีกตัวเป็นน้อย แบบนั้นเชื้อมันจะเดินทางจากตัวที่เป็นมากไปหาตัวที่เป็นน้อย ก็ขอให้ท่านคิดถึงหวัดกันเอาไว้นะครับ ทำนองนั้นครับ
แล้วจะทราบได้อย่างไรว่าติด PRRS ผมต้องเรียนตรงๆ ว่าเราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับ PRRS ครับ ปัจจุบันมีฟาร์มปลอด PRRS อยู่มากมายแต่ต้องลงทุนสูงมากในการจัดการกับมัน หมูแทบทุกตัวที่ไม่ใช่หมู free PRRS ก็จะมีเชื้ออยู่ในตัวอยู่แล้วครับ รอแค่วันเวลาจะแสดงอาการออกมา อาจจะในระบบทางเดินหายใจ ระบบสืบพันธุ์ หรือเด่นชัดทั้งสองระบบ การที่บอกว่าหมูป่วยจาก PRRS เป็นคำตอบที่ดูเหมือนใช่และดูเหมือนไม่ใช่ เหมือนใช่ในที่นี้ก็คือมันทำให้หมูป่วยได้แน่ และในหมูทุกตัวก็มีเชื้อตัวนี้ เหมือนไม่ใช่ก็คือมันไม่ได้ตายด้วยเชื้อนี้อย่างที่บอก
ดังนั้นวิธีในการควบคุมฝูงหมูที่ติดเชื้อดังกล่าว เราต้องใช้ยาปฏิชีวนะลดอาการแทรกซ้อนจากเชื้อตัวอื่น ย้ำนะครับว่าเชื้อตัวอื่นๆ ที่จะฉวยโอกาสเข้าไปในร่างกายหมูป่วยจาก PRRS ไม่ว่าจะเป็น เสตรป เอพีพี พาสเจอเรลรา และเชื้อที่ก่อให้เกิดปัญหาในระบบสืบพันธุ์อื่นๆ แม้หมูจะมีเชื้อ PRRS ก็จะไม่รุนแรงมากเพราะไม่มีการติดเชื้อแทรก นอกจากนั้นการติดเชื้อแทบทุกชนิดมักจะทำให้หมูมีไข้ เราจึงใช้ยาลดไข้ร่วมด้วย เพื่อไม่ให้ภูมิคุ้มกันตกมากไป และยาลดไข้จะมีผลในการยับยั้งการสร้างไซโตไคม์/ไซโตคลิเนส ของไวรัส พูดง่ายๆ คือ ทำให้อิทธิฤทธิ์ของเจ้าไวรัสลดลง
ตัวยาที่เราจะใช้นั้นใช้ได้หลายๆ ตัว อยู่กับเชื้อที่เข้า ไม่มียาเฉพาะเจาะจงที่ใช้ได้ แต่โดยมากจะใช้ยาคุมอาการในปอด ถ้าจะเอาตัวดีๆ ที่จะเข้าถึงเซลแมคโครฟาจ (คือเซลที่จะไปจับกินสิ่งแปลกปลอม เช่น เชื้อโรค) ในปอดจะมี โจซามัยซิน แวโลซิน ทิลมิโคซิน (มีอีกแต่ที่ฮิตๆ จะประมาณนี้)
กลุ่มที่คุมอื่นๆ ที่ใช้ได้อาจจะมี แอมมอกซี่ซิลิน ฟลอเฟนนิติคอล ทูลาโธรมัยซิน ซัลฟา-ไตรเมทโธพริม และยาปฏิชีวนะกลุ่มเซฟาโรสปอริน ส่วนยาลดไข้มีหลากหลายตั้งแต่สมุนไพรนานาชนิด พาราเซตามอล จนถึงยาลดไข้พวก NSAID แต่ละตัวมีข้อดีข้อเสียต่างๆ กันครับ ต้องขออภัยสมาชิกที่ต้องบอกเป็นชื่อยา เพราะไม่ต้องการพูดชื่อยี่ห้อยาทุกชนิดครับ
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับการฟื้นฟูภูมิคุ้มกันได้แก่การใช้จุลชีพสร้างสารที่จะช่วยในการฟื้นฟูภูมิคุ้มกันของหมู ยกตัวอย่างเช่น เบต้ากลูแคนในยีสต์ ดังนั้นการบริโภคอาหารที่มีเบต้ากลูแคน เช่น มันหมักยีสต์ (อันนี้เพื่อเกษตรกรพูดได้ครับ) ก็จะมีผลในการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับหมู
สรุปว่ายารักษา PRRS ที่ยอมรับกันในวงกว้าง ณ ปัจจุบันยังไม่มี ยาที่ใช้นั้นเพื่อรักษาอาการแทรกจาก PRRS เท่านั้น หากหมูมีอาการ PRRS กำเริบต้องรักษาตามอาการพร้อมกับลดไข้ของหมู พร้อมกันนั้นให้กินอาหารที่ดีมีส่วนผสมที่ทำให้สัตว์ฟื้นตัวได้เร็ว เมื่อโรคแทรกได้ถูกทำลายลง ถ้าหากดวงยังไม่ถึงฆาตจริงๆ ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันจนค่อยๆ ฟื้นจากโรค และหมูของท่านก็จะสามารถกลับมาเตะปี๊ปดังได้อีกครั้งหนึ่ง

บทความโดย 
Ronald Tung


คลิ๊กเข้าร่วมกลุ่มfacebookกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรแห่งประเทศไทย
กดแชร์บทความนี้
Share on Google Plus

About น้ำเชื้อสุกร

This is a short description in the author block about the author. You edit it by entering text in the "Biographical Info" field in the user admin panel.
    Blogger Comment
    Facebook Comment

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น

By กลุ่มผู้เลี้ยงสุกรแห่งประเทศไทย