ว่าจะมาเล่าเรื่องเลี้ยงหมูกับเลี้ยงวัว พอดีมีคนถามมา ในเพจนี้ผมก็เห็นมีคนพูดถึงบ่อยๆ ผมคงไม่มีคำตอบที่ชัดเจนได้เพราะสินค้าเกษตรทุกอย่างมีปัจจัยเสี่ยงทางด้านฤดูกาล กลไกตลาด โรคระบาด(แต่รักษาหลายบาท) แม้กระทั่งการเมืองก็มีผลมากนะครับ
ดังนั้นแล้วคงไม่มีอะไรดีกว่าอะไร ผมจะเปรียบเทียบดูคร่าวๆ ให้เพื่อนสมาชิกได้พิจารณากันดังนี้ครับ
1) พูดถึงการสร้างเล้า วัวถูกกว่าหมู ราคาเท่าไหร่ไม่ทราบกันล่ะครับ แต่เทียบกันตัวต่อตัวหมูแพงกว่าแน่ๆ อันนี้พูดถึงถ้าจะทำเล้ามาตรฐานนะครับ
2) พูดเรื่องพื้นที่ต่อ กก. อาจต่างกันไม่มาก หมูขุนน้ำหนัก 100-110 กก. ในขณะที่วัวบางทีอาจจะมีน้ำหนัก 500 กก. ถ้าคิดน้ำหนักต่อพื้นที่ หมู 5 ตัวใช้พื้นที่เท่ากับวัว 1 ตัว ไม่ใช่เรื่องแปลก อันนี้ถ้าเรามองถึงวัวขุนที่ไม่ได้ไล่ทุ่งนะครับ ถ้าจะไล่ทุ่งหรือจะต้อนออกมานอกคอก หรือทำคอกให้เดินเล่น ก็ต้องว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง
3) อาหารวัวสำเร็จรูปราคา กก. ละ 7 บาท สมมุติการกิน 3% ของน้ำหนักตัว ถ้าวัว นน. เฉลี่ยตลอดการเลี้ยง 350 กก. จะกินอาหาร 0.03*350*7 ประมาณ 74 บ./ตัว/วัน เลี้ยง 2.5 เดือนลงทุน 5550 บาทต่อตัว (ราคาอาจต่างกันตามพื้นที่ต้องขออภัย) หมูกินอาหารตั้งแต่เริ่มลงขุนที่ 20 กก.-115กก. กินเฉลี่ยวันละ 1.9 กก. ราคาอาหารคิดที่ 14 บาทต่อกก. จะมีต้นทุน 1.9*14=26.6 ประมาณ 27 บาท/ตัว/วัน เลี้ยง 3.5 เดือน ลงทุน 2835 บาทต่อตัว (ราคาอาจต่างกันตามพื้นที่ ย้ำอีกทีนะครับ)
4) ราคาค่าตัวเป็นสิ่งที่ต้องนำมาคิด ในที่นี้สมมุติให้วัวมีค่าตัวแรกรับเท่ากับ 32,000 บาทต่อตัว หมูมีต้นทุน 2,600 บาทต่อตัว บวกกับค่าอาหารจะได้ว่าค่าตัวรวมค่าอาหาร วัวเท่ากับ 5550+32000=37,550 บาทต่อตัว ส่วนหมูเท่ากับ 2600+2835=5,435 บาทต่อตัว คิดความเสี่ยงกับค่าแรงบวก safety factor 10% จะได้ต้นทุนวัว 41,300 หมูประมาณ 6,000 บาทตามลำดับ
5) ราคาขายสมมุติวัวขายได้ 105 บาท ต่อ กก. ขุนขายที่ 450 กก.ต่อตัว จะได้เงิน 47,250 กำไร 47,250-41,300=6,000 บาทต่อตัว หันมาดูสายหมูกันบ้าง ขายที่ 64 บาทต่อกก. น้ำหนัก 115 กก. ต่อตัว เป็นเงิน 7,360 บาทต่อตัว กำไร 7,360-6,000=1,360 บาทต่อตัว
6) ถ้าคำนวณที่ 1 ตัวเหมือนกัน วัวได้กำไร (6,000/41,300)*100=14.52% ในขณะที่หมูได้กำไร (1,360/6000)*100=22.67% แต่เดี๋ยวครับ การคำนวณยังไม่สามารถจบได้เพียงเท่านี้
7) ผมเอา 14.52 หารด้วยจำนวนวันเลี้ยง 2.5 เดือน จะได้กำไรต่อวัน หรือ daily profit percent (DPP)= 0.194% ต่อวัน สำหรับวัว ต่อมาในสายหมูเอา 22.67 หารด้วย 3.5 เดือน DPP=0.216% ต่อวัน จะเห็นว่าเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกัน เพราะมี DPP ประมาณ 0.2% ต่อวัน ครับ (ถ้าตัวเลขใกล้เคียงกับที่นำมาใช้คำนวณนะครับ)
8) ที่ผมบอกว่าผมบอกไม่ได้ว่าอะไรดีกว่า เพราะตัวเลขในแต่ละท้องที่ต่างกัน อย่างเช่นราคาอาหารวัว อันนี้ผมคิดราคาของ TMR (Total Mix Ratio) อ้างอิงจากร้านอาหารสัตว์ยี่ห้อหนึ่ง แต่ที่ถามจากลูกน้องบางทีก็ซื้อได้ในราคา 4-5 บาท ต่อ กก. บางที่(ส่วนมาก) ใช้อาหารหยาบปนกับอาหารข้น อันนี้แล้วแต่สูตรของใครของมัน ผมขออนุญาติละไว้ในฐานที่เข้าใจครับ
9) แต่ถึงว่าตัวเลขจะเปลี่ยนไปอย่างไรก็ตาม วิธีคิดจะไม่เปลี่ยนครับ จะอยู่ราวๆ นี้ ครับ อันนี้คิด safety factor ไปแล้ว น่าจะมีความยืดหยุ่นทางด้านการลงทุนพอสมควรครับ อย่างไรก็ตามราคาจับออกย่อมไม่เท่ากับที่ผมเขียนไว้แน่ๆ ก็ขอละไว้ในฐานที่เข้าใจด้วยครับ
10) นอกจากนี้การใช้อาหารยังขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ด้วยครับต้องเน้นย้ำ บางทีตัวเลขก็อาจจะตรงกันได้ ปัจจัยที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือปัจจัยเรื่องอัตราการสูญเสีย จะเสียจากอะไรอย่างไรไม่ทราบล่ะครับ แต่ถ้าเสียหายก็ต้องเอามาคิดอีกทีหนึ่ง ไม่ได้แสดงวิธีคิดไว้ในที่นี้ครับ มันละเอียดอ่อนเกินกว่าจะมาเขียนแสดงไว้ ต้องทำความเข้าใจจากระสบการณ์ครับ
หากผิดพลาดประการใจต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ ด้วยนะครับ การทำธุรกิจต้องคำนวณให้ได้ครับในเรื่องของการลงทุน ไม่เช่นนั้นจะเสียเปรียบตลอดไป ไม่ว่าจะเป็นรายเล็ก รายย่อย รายกลาง รายใหญ่ ถ้าคำนวณตัวเลขไม่ได้ ไม่มีความรู้เรื่องประสิทธิภาพการผลิต ส่วนมากไปไม่รอด ไปรอดก็ไม่รวย แม้กระทั่งคนที่คิดเป็นหมดแล้ว บางทีก็จะตายแหล่มิตายแหล่ เป็นรสชาติของธุรกิจครับ บางคนก็บอกว่า งั้นจะไปคำนวณอะไรมันมาก ผมว่ามันก็มีส่วนจริงครับ 555 แต่ยังไงก็ลองดูสักนิด ฝากไว้เป็นทางเลือกในการตัดสินใจครับ****
โดยคุณ Ronald Tung
|
|
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น